Details

Category: สำนักนายกฯ

Published: Monday, 28 March 2016 22:54

Hits: 6382

สมคิด`มั่นใจศก.ไทยปีนี้โตได้ 3% รับศก.โลกชะลอกระทบส่งออก ย้ำต้องหันพึ่งภาคเกษตรมากขึ้น

     นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงานกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "แนวทาง การขับเคลื่อน นโยบายประชารัฐเพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งและยั่งยืน" ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ในระดับ 3% ขึ้นไป แม้จะมีปัจจัยลบจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการส่งออกของไทย ซึ่งมูลค่าเทียบเท่า 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) แต่ถือว่าการส่งออกไทยยังหดตัวน้อยกว่าหลายๆ ประเทศ และเริ่มกลับมาเป็นบวกได้ใน เดือนก.พ.ที่ผ่านมา

      "ผมเพิ่งไปเกาหลีกลับมา เขาก็ถามว่าประเทศไทยจะทำให้จีดีพี โต 3% ได้หรือไม่ ผมบอกว่าทำได้แน่ แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เราคิดว่าจะทำอย่าง ไรให้เศรษฐกิจของ เรา เติบโตอย่างยั่งยืน" นายสมคิด

       นายสมคิด กล่าวอีกว่าขณะนี้เศรษฐกิจโลกไม่ดี และสถานการณ์ถือ ว่าหนักมากขนาดที่จีนซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ส่งสินค้าออกทั่วโลก มียอดส่งออกลดลง ถึง 25% ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่เกาหลีใต้ ส่งออกเดือนม.ค.ติดลบ 18% และก.พ. ติด ลบ 12% โดยที่ ติดลบต่อเนื่องมาปีครึ่ง จึงเห็นได้ว่าตอนนี้เศรษฐกิจชะลอตัวทั่ว โลก เพราะฉะนั้น ทุกรัฐบาลก็คิดว่าจะบริหารประเทศอย่างไรในภาวะเช่นนี้

         สำหรับประเทศไทยนั้น นายสมคิด ระบุว่า รัฐบาลชุดนี้ มี โครงการประชารัฐ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และภาคเกษตรกร เพราะรัฐมีกำลังน้อย ประชาชน มีกำลังน้อย  จึงต้องอาศัยเอกชนที่มีกำลังเข้มแข็งเข้ามาช่วย 

         "อย่าไปสนใจการเมือง อีกปีครึ่งค่อยว่ากัน อยาก เลือกพรรคไหน  ก็ค่อยเลือกไป แต่ตอนนี้เอาประชารัฐไปก่อน" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

         เขา กล่าวอีกว่า โครงสร้างทางเศรษฐกิจของไทยในช่วง 30 ปีที่ ผ่านมา พึ่งพา ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการส่งออกมากเกินไป เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลง เราจึงได้รับ ผลกระทบมาก วันนี้จึงต้องกลับมาพึ่งภาคเกษตรมากขึ้น โดยทำอย่างไรถึงจะปฏิรูปภาคเกษตร และให้ภาคเกษตรเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  โดยภาคเกษตรของไทย มีประชาชนอยู่ในภาคดังกล่าวถึง 30 ล้าน คน แต่ในด้านมูลค่า คิดเป็นเพียง 8% ของจีดีพี ซึ่งถือว่าน้อยมาก เพราะฉะนั้น ต้องมีการปฏิรูปภาคเกษตร ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้มีนโยบายหลายอย่างที่ออกมาช่วยเหลือ ภาคเกษตร อาทิ โครงการมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท ที่ปล่อยกู้ให้แก่กองทุนหมู่ บ้าน ซึ่งปัจจุบันมีการเสนอ โครงการมาแล้ว 5 หมื่นโครงการ โดยอนุมัติไปแล้ว 4.2 พันโครงการ

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย